ค่าเช่าโกดังรวมอะไรบ้าง? พิจารณาให้ครบก่อนตัดสินใจเช่า

ค่าเช่าโกดังรวมอะไรบ้าง? พิจารณาให้ครบก่อนตัดสินใจเช่า

การเช่าโกดังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่เพราะช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาก่อสร้าง ทั้งยังช่วยให้สามารถขยายพื้นที่กิจการได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย

ดังนั้น การคำนวณค่าเช่าโกดังจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะจะทำให้มองเห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายและช่วยให้วางแผนงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้จะพูดถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องพร้อมตัวอย่างการคำนวณเพื่อให้มองเห็นภาพมากยิ่งขึ้นว่าค่าเช่าโกดังรวมอะไรบ้าง

ค่าเช่าโกดังรวมอะไรบ้าง? แชร์ทุกค่าใช้จ่ายต้องรู้เมื่อเช่าโกดัง

รวมลิสต์ทุกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถคำนวณค่าเช่าโกดังได้อย่างครบถ้วน ครอบคลุม และใช้งานได้จริง

ค่าเช่าโกดังและค่าเช่าโกดังล่วงหน้า

คำนวณตามตารางเมตรของที่เช่า นอกจากนี้จะมีการเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้า 1-2 เดือนของค่าเช่าหรือแล้วแต่ตกลงกันทั้งสองฝ่าย

• ภาษี
  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 
    แบ่งคำนวณเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ค่าเช่าโกดังในอัตราร้อยละ 5 ของค่าเช่า และค่าบริการในอัตราร้อยละ 3 ของค่าบริการ
  • อากรแสตมป์
    คำนวณด้วยอัตราร้อยละ 0.1 ของค่าเช่า
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
    ค่าเช่าโกดังนั้นได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไรก็ตาม หากกิจการมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี และมีค่าบริการหรือใช้จ่ายอื่น ๆ จากค่าเช่า ทางผู้เช่าต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าบริการในอัตราร้อยละ 7 ของค่าบริการ
  • ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
    ขึ้นอยู่กับการตกลงว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าภาษีส่วนนี้ โดยมีอัตราการคำนวณภาษี ดังนี้
    • มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.3%
    • มูลค่า 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4%
    • มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.5%
    • มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6%
    • มูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.7%
• ค่าน้ำ – ค่าไฟ
  เป็นค่าใช้จ่ายที่ขึ้นอยู่กับอัตราของนิคมอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่ สามารถสอบถามองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาได้
• ค่าบริการ
  เป็นค่าใช้จ่ายของค่าเช่าโกดังสำหรับบำรุงรักษาพื้นที่และอาคาร ความปลอดภัย รวมถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง
• ค่ามัดจำ
  ทางผู้ให้เช่าจะคำนวณค่ามัดจำ 2-4 เดือนของราคาค่าเช่าโกดัง
• ค่าซ่อมแซมและบำรุงสถานที่
  การซ่อมแซมและบำรุงสถานที่เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนส่งพื้นที่คืนหลังสิ้นสุดสัญญาเพื่อรับค่ามัดจำคืน

ตัวอย่างวิธีคิดค่าเช่าโกดังเบื้องต้น

โรงงานแห่งหนึ่งคิดค่าเช่าคลังสินค้า 300 บาท / ตารางเมตร / เดือน

ค่าบริการ 20,000 บาท / เดือน

ต้องการเช่าพื้นที่ทั้งหมด 400 ตารางเมตร คำนวณเบื้องต้นได้ ดังนี้

• ค่าเช่าโกดัง
  300 x 400 x 30 = 3,600,000 บาท / เดือน
• อากรแสตมป์
  คำนวณจากอัตราร้อยละ 0.1 ของค่าเช่า เท่ากับ 3,600,000 x 0.1% = 3,600 บาท
• ค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
  • สำหรับค่าเช่า ใช้อัตราร้อยละ 5 ของค่าเช่า 
    3,600,000 x 5% = 180,000 บาท
    ค่าเช่าโกดังหลังคำนวณภาษี เท่ากับ 3,600,000 – 180,000 = 3,420,000 บาท
  • สำหรับค่าบริการ ใช้อัตราร้อยละ 3 ของค่าบริการ 
    20,000 x 3% = 600 บาท 
    ค่าบริการหลังคำนวณภาษีเท่ากับ 20,000 – 600 = 19,400 บาท
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  คำนวณจากค่าบริการในอัตราร้อยละ 7 ของค่าบริการ เท่ากับ 20,000 x 7% = 1,400 บาท
  ค่าบริการหลังคำนวณภาษีทั้งหมดจึงเท่ากับ 19,400 + 1,400 = 20,800 บาท

จากวิธีคิดค่าเช่าโกดังที่ยกตัวอย่างไปนั้น สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายได้ ดังนี้

• ค่าเช่าโกดัง 3,420,000 บาท
• ค่าบริการ 20,800 บาท
• อากรแสตมป์ 3,600 บาท

ดังนั้น ค่าใช้จ่ายของค่าเช่าโกดังเบื้องต้น จึงเท่ากับ 3,444,400 บาท 
สำหรับผู้ที่มองหาโกดังหรือโรงงานให้เช่านั้น รังสิต พรอสเพอร์ เอสเตท (Rangsit Prosper Estate) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในพื้นที่อุตสาหกรรมทำเลทองของเขตปทุมธานี เข้าถึงได้ง่ายจากกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่อุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ปรับปรุงพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ตอบโจทย์กิจการอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ