ข้อควรรู้ก่อนทำสัญญาโรงงานให้เช่า พร้อมแนวทางการปรับปรุงสัญญาเช่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การใช้บริการโรงงานให้เช่าเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจ เพราะการเช่าโรงงานนั้นสะดวก คล่องตัว และตอบโจทย์ด้านงบประมาณมากกว่า แต่สิ่งสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เมื่อต้องการเช่าโรงงานก็คือการทำสัญญา บทความของเราวันนี้จึงขอแนะนำข้อควรรู้ก่อนทำสัญญาเช่าโรงงาน พร้อมแนวทางที่ควรทำหากต้องการเพิ่มเติมหรือปรับปรุงสัญญาเช่า เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
8 ข้อต้องรู้ก่อนทำสัญญาเช่าโรงงาน
1. อ่านสัญญาเช่าอย่างละเอียด
ก่อนทำสัญญาเช่าโรงงาน โรงงานผลิตยา โรงงานผลิตอาหาร หรือสัญญาใด ๆ เราต้องอ่านรายละเอียดในสัญญานั้นให้ครบถ้วนทุกตัวอักษรก่อนเสมอ เพื่อทำความเข้าใจเงื่อนไข ข้อตกลง และระเบียบต่าง ๆ ทั้งในส่วนของระยะเวลาเช่า หน้าที่ความรับผิดชอบ เงินมัดจำ และค่าเช่าต่อเดือนหรือต่อปี โดยปกติแล้วสัญญาเช่าจะมีอายุ 3 ปี แต่หากเช่าระยะยาวเกิน 3 ปี จะต้องมีการจดทะเบียนไว้กับกรมที่ดินด้วย นอกจากนี้หากสัญญาเช่าเป็นภาษาอังกฤษก็ควรมีสัญญาฉบับแปลภาษาไทยแนบไว้ด้วยเสมอเพื่อใช้ในกรณีต้องการติดต่อหน่วยงานราชการไทย
2. ตรวจสอบสภาพโรงงานที่ต้องการเช่า
ก่อนตกลงเซ็นสัญญาเช่า ผู้เช่าต้องทำการตรวจสอบสภาพโรงงานให้เช่าก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสภาพทั้งภายนอก ภายใน อุปกรณ์เครื่องใช้และสาธารณูปโภคต่าง ๆ หากพบส่วนใดชำรุดเสียหายต้องแจ้งผู้ให้เช่าทันที หากอาคาร อุปกรณ์ และสาธารณูปโภคอยู่ในสภาพเรียบร้อยสมบูรณ์ ส่วนต่อมาที่ต้องตรวจสอบก็คือจำนวนกุญแจและรายการทรัพย์สินที่มาพร้อมโรงงาน ซึ่งเราควรเก็บรายละเอียดในส่วนนี้ไว้แนบกับสัญญา หรือถ่ายรูปสภาพอาคารทั้งภายในและภายนอกเก็บไว้อย่างละเอียดเพื่อใช้อ้างอิงกับสัญญาในอนาคตด้วย
3. ตรวจสอบความเป็นเจ้าของทรัพย์ที่เช่า
เมื่ออ่านรายละเอียดสัญญาและตรวจสอบสภาพโรงงานที่ต้องการเช่าเรียบร้อยแล้ว ประเด็นต่อมาที่ไม่ควรละเลยก็คือการตรวจสอบความเป็นเจ้าของทรัพย์ที่เราจะเช่า โดยตรวจสอบว่าผู้ให้เช่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโรงงานแห่งนั้นจริงหรือไม่ อาจตรวจสอบจากโฉนดที่ดิน หนังสืออนุญาตก่อสร้าง หรือสัญญาเช่าช่วงก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันปัญหาการแอบอ้างจนอาจทำให้สัญญาเป็นโมฆะและกระทบกับการทำธุรกิจในอนาคต
4. ศึกษาขอบเขตความรับผิดชอบตามสัญญา
การเช่าโรงงาน หรือโกดัง คลังสินค้าต่าง ๆ ตามปกติแล้วจะมีการระบุขอบเขตหน้าที่ ความรับผิดชอบทั้งของผู้เช่าและผู้ให้เช่าเสมอ ว่าผู้เช่าต้องรับผิดชอบการดูแล บำรุงสถานที่ในส่วนไหนบ้าง และผู้ให้เช่ามีหน้าที่รับผิดชอบส่วนไหนบ้าง เราควรศึกษาขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายอย่างละเอียดเพื่อให้บริหารจัดการดูแลโรงงานและอุปกรณ์ภายในโรงงานได้อย่างเหมาะสมหากเกิดปัญหาต้องซ่อมแซมแก้ไข
5. ศึกษากฎระเบียบของนิคม โครงการ หรือที่ตั้งโรงงาน
หากโรงงานให้เช่าที่เราต้องการตั้งอยู่ในนิคมหรือโครงการ ไม่ได้ตั้งอยู่บนที่ดินเดี่ยว ควรมีระเบียบข้อบังคับของโครงการแห่งนั้นแนบท้ายสัญญาด้วย เพื่อให้ผู้เช่าสามารถทำความเข้าใจระเบียบ ข้อบังคับ และปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมาตรฐานอันดีของโครงการนั้น ๆ
6. ศึกษารายละเอียดประกันภัย
ประกันภัยมีความสำคัญกับโรงงาน โกดัง และคลังสินค้าอย่างมาก ซึ่งรายละเอียดการรับประกันภัยส่วนใหญ่จะแยกเป็นหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยโครงสร้าง ประกันภัยเครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงประกันอัคคีภัย ก่อนทำสัญญาจึงต้องพูดคุย สอบถามรายละเอียดจากผู้ให้เช่าก่อนเสมอว่าหน้าที่การทำประกันส่วนไหนที่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจของเรา
7. ศึกษาภาษีที่เกี่ยวข้องและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โกดัง หรือคลังสินค้าตามปกติแล้วจะมีภาษีหัก ณ ที่จ่ายในการเช่า โดยผู้เช่าต้องหัก 5% ของค่าเช่า นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งต้องทำการเสียภาษีตามมูลค่าราคาประเมินของทรัพย์และที่ดินนั้น ในสัญญาควรระบุอย่างชัดเจนว่าฝ่ายใดต้องเป็นผู้เสียภาษี ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อย่างค่าสาธารณูปโภคผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามจริง
8. ต้องติดอากรแสตมป์ในสัญญาเช่าเสมอ
สิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยในการทำสัญญาโรงงานก็คือการติดอากรณ์แสตมป์ในสัญญา เพราะหากไม่ติดอากรณ์แสตมป์หนังสือสัญญาฉบับนั้นจะนำไปใช้เป็นหลักฐานทางคดีความไม่ได้ อัตราการติดอากรณ์แสตมป์อยู่ที่ 1 บาท ต่อค่าเช่า 1,000 บาท ควรระบุให้ชัดเจนว่าฝ่ายไหนเป็นผู้เสียค่าอากรณ์แสตมป์และควรติดอากรแสตมป์ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญา
ปรับปรุงสัญญาโรงงานทำอย่างไร แก้ไขส่วนใดได้บ้าง?
หากตกลงทำสัญญาโรงงานแล้วต้องการปรับปรุงหรือเพิ่มเติมรายละเอียดต่าง ๆ ในสัญญาเช่า สามารถทำได้โดยการบอกกล่าวและตกลงกันทั้งสองฝ่าย สำหรับการแก้ไขข้อความ คำผิด หากตกลงว่าให้ขีดฆ่าและเซ็นชื่อกำกับในสัญญาเดิมได้ก็สามารถทำได้โดยต้องลงชื่อกำกับทั้งสองฝ่ายเพื่อแสดงถึงการรับรู้และตกลงตามรายละเอียดใหม่ที่แก้ไขข้อความ
อย่างไรก็ตามหากต้องการเพิ่มเติมเงื่อนไขหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ไม่ควรใช้ปากกาเขียนเพิ่มในสัญญา แต่ควรทำเป็น “บันทึกแก้ไขเพิ่มเติม” ฉบับใหม่ขึ้นมาเลย หลังจากลงชื่อทั้งสองฝ่ายแล้วจึงแนบไว้กับสัญญาฉบับเดิม โดยไม่ต้องทำสัญญาใหม่ทั้งฉบับ แต่เขียนใหม่เฉพาะเงื่อนไขที่ต้องการแก้ไขหรือเพิ่มเติมเท่านั้น
ส่วนรายละเอียดที่สามารถปรับปรุงหรือเพิ่มเติมได้ก็มีทั้งการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาเช่า อาจเปลี่ยนจากการเช่าโรงงานระยะสั้นเป็นระยะยาว (เกิน 3 ปี) เปลี่ยนแปลงขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ ไปจนถึงรายละเอียดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับการทำข้อตกลงระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่า
การทำสัญญาเช่าโรงงาน โกดัง หรือคลังสินค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการรวมถึงผู้ให้เช่าอย่างมาก เพราะเป็นเอกสารที่ระบุหน้าที่ ความรับผิดชอบ และรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองสิทธิของทั้งสองฝ่าย ดังนั้นหากต้องการแก้ไขเพิ่มเติม จึงต้องตกลงกันให้เรียบร้อย พร้อมแก้ไขหรือทำบันทึกการแก้ไขแนบเป็นลายลักษณ์อักษรจะดีที่สุด
หากคุณกำลังมองหาโรงงานให้เช่า คลังสินค้า หรือโกดังให้เช่า (Factory For Rent) พร้อมภาพลักษณ์การออกแบบรูปทรงอาคารโกดัง คลังสินค้าที่หรูหรา ทันสมัย มีระบบสาธารณูปโภคครบครันในการดูแลธุรกิจของคุณ ให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกโกดังให้เช่า ปทุมธานี โกดังให้เช่า รังสิต โครงการรังสิต พรอสเพอร์ เอสเตท ที่เน้นพื้นที่ทำงาน และยังอยู่ในพื้นที่ไกลจากแหล่งชุมชน เดินทางสะดวก ระบบสาธารณูปโภคครบครัน เพื่อรองรับนักธุรกิจขนาดย่อม (SME) ที่กำลังพัฒนา มีความยืดหยุ่นกับทุกประเภทธุรกิจ รองรับการขยายกิจการไปยังอาคารข้างเคียงได้ในอนาคต เราให้บริการคลังสินค้าให้เช่าแบบ Built to suit warehouse โดยเน้นที่การพัฒนาคลังสินค้า หรือโกดังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของผู้เช่า มีการตกลงทำสัญญากับผู้เช่าก่อนที่จะเริ่มก่อสร้างโรงงาน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเช่าโกดัง หรือเช่าโรงงานในทำเลที่ดี สะดวกสบาย ใกล้กับถนนสายหลัก และสายการขนส่งสำคัญ ทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้าเป็นเรื่องง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ค้นหาคลังสินค้าให้เช่า โกดังให้เช่า โรงงานให้เช่า ปทุมธานี (Factory For Rent Thailand)
ที่โครงการรังสิต พรอสเพอร์ เอสเตท บริการให้เช่าโรงงาน เช่าโกดัง คลังสินค้าคุณภาพสูง
โดยเน้นที่การสร้างตามความต้องการของผู้เช่า (Built to Suit Factory)
โทร. 02-516-1134, 02-902-0407-09
อีเมล: marketing@rpe.co.th