
เข้าใจการจัดการสารเคมี และวัตถุอันตรายในพื้นที่โรงงานให้เช่าอย่างถูกต้อง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าโรงงานอุตสาหกรรมแทบทุกแห่งไม่ว่าในพื้นที่ของตนเอง หรืออยู่บริเวณโรงงานให้เช่า (factory for rent) ก็ตาม เรื่องที่มักตามมาหลังการผลิตนั่นคือเรื่องของสารเคมี หรือแม้แต่ขั้นตอนในระหว่างที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่อนำวัตถุอันตรายต่าง ๆ สำหรับเข้าสู่กระบวนการผลิต สิ่งสำคัญของทุกโรงงานนั่นคือต้องมีระบบ และข้อปฏิบัติที่ถูกต้องในการจัดการสารเคมี และวัตถุอันตรายเหล่านั้นเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งคน สัตว์ และพืช
กลุ่มสารเคมี หรือวัตถุอันตรายมีการคิดค้นและผลิตขึ้นมาหลายประเภทเพื่อใช้ประกอบในการผลิตสินค้า และใช้งานในด้านต่าง ๆ ตัวอย่างที่ทุกคนคุ้นเคย เช่น สารหนู เบนซิน กรดกำมะถัน โซเดียมไฮดรอกไซด์ ยูเรเนียม พลูโตเนียม ไนโตรกลีเซอรีน เมทานอล แอมโมเนียไนเตรท อะเซทิลีน เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้หากเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ในปริมาณมาก หรือเป็นระยะเวลานานย่อมส่งผลกระทบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ การเกิดโรคต่าง ๆ การเข้าใจวิธีจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ของตนเอง หรืออยู่ในพื้นที่โรงงานให้เช่า (factory for rent) จึงต้องเข้าใจอย่างละเอียดที่สุด
ขั้นตอนการจัดการสารเคมี และวัตถุอันตรายในพื้นที่โรงงานให้เช่า (factory for rent) อย่างมีระบบ
1. สถานที่จัดเก็บต้องแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน
สิ่งสำคัญลำดับแรกก่อนเริ่มต้นจัดการกับสารเคมี หรือวัตถุอันตรายต่าง ๆ ต้องมีการแยกพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งอันตรายเหล่านั้นออกจากพื้นที่ปกติให้ชัดเจน พร้อมด้วยการติดป้ายกำกับระบุเอาไว้แบบเด่นชัด เพื่อแจ้งให้กับทุกคนได้รับรู้ว่าบริเวณดังกล่าวไม่เหมาะสำหรับการเข้าไปอยู่ใกล้ ห้ามก่อให้เกิดประกายไฟ ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงสารเคมีบางประเภทที่อาจทำปฏิกิริยากับสารเคมีอื่นต้องมีการแยกจัดเก็บต่างหากอีกด้วย
2. ภาชนะบรรจุต้องปลอดภัย ปิดสนิท
นอกจากการแยกพื้นที่จัดเก็บสารเคมี และวัตถุอันตรายต่าง ๆ ออกจากกันให้ชัดเจนแล้ว ต้องคอยสังเกตภาชนะที่บรรจุสารเหล่านั้นด้วยว่ามีการปิดสนิทมิดชิดหรือไม่เพื่อการันตีความปลอดภัย ไม่เกิดการรั่วไหลซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตัวคนงานและสิ่งแวดล้อมบริเวณโดยรอบ อันเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้มีใครเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องนี้จึงต้องใส่ใจพร้อมหมั่นเช็กอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ภาชนะบรรจุเองก็ต้องมีการระบุชื่อสารเคมี หรือวัตถุอันตรายเหล่านั้นให้ครบถ้วนด้วย
3. มีขั้นตอนการกำจัดที่ถูกต้อง
เมื่อการจัดการเกี่ยวกับการจัดเก็บสารเคมี และวัตถุอันตรายต่าง ๆ ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องดำเนินการด้วยความรัดกุม เหมาะสมไม่แพ้กันนั่นคือ การกำจัดสิ่งดังกล่าวด้วยความถูกต้อง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งคำแนะนำมีดังนี้
3.1 การทำลายทางกายภาพ: การทำลายทางกายภาพ คือการทำลายสารเคมี หรือวัตถุอันตรายผ่านวิธีทางกายภาพอย่างการเผาไหม้ ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องทำการเผาในเตาที่มีอุณหภูมิความร้อนสูง ภายใต้บริเวณที่ถูกจำกัดเอาไว้อย่างดี มีเฉพาะผู้เกี่ยวข้อง ห้ามให้ผู้อื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว และต้องมีการใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่างมิดชิด พร้อมเข้าใจขั้นตอนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุ หรือสิ่งไม่คาดฝัน
3.2 การทำลายทางชีวภาพ: การทำลายทางชีวภาพ คือการเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติโดยเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ที่สามารถทำลายสารเคมีต่าง ๆ ได้ ซึ่งวิธีนี้มีข้อดีตรงที่โอกาสเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมีน้อย แต่ก็อาจต้องใช้ระยะเวลามากขึ้น ไปจนถึงต้องคอยประเมินผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ
3.3 การทำลายทางสารเคมี: การทำลายทางสารเคมี คือการเลือกใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์ในการทำลายเข้ามาเป็นปัจจัยหลัก จุดประสงค์สำคัญเพื่อให้เกิดการกระตุ้นทางเคมี และเร่งกระบวนการความเสียหายเพื่อจัดการกับวัตถุอันตรายเหล่านั้นให้ย่อยสลายโดยไม่เกิดผลข้างเคียงต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ผู้ปฏิบัติงานมีการป้องกันอันตรายอย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบทั้งระยะสั้น และระยะยาว
3.4 การทำลายโดยใช้เครื่องจักร: วิธีสุดท้ายเป็นการทำลายสารเคมี และวัตถุอันตรายต่าง ๆ ด้วยอาศัยเครื่องจักรเข้ามีมีส่วนร่วมเพื่อลดความยุ่งยาก เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และได้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจ เช่น การใช้รถบดในการบดทำลายวัตถุต่าง ๆ ในบริเวณที่ปิดมิดชิด มีเฉพาะผู้เกี่ยวข้องเข้าปฏิบัติงาน และวัตถุดังกล่าวต้องไม่สร้างอันตราย หรือผลเสียอื่นเมื่อถูกบดทำลายแล้ว เป็นการป้องกันความเสี่ยงไปในตัวนั่นเอง
4. ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามมาตรฐานระดับสากล และถูกต้องตามกฎหมาย
ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ การทำลายใด ๆ ก็ตามทุกอย่างต้องปฏิบัติตามมาตรฐานระดับสากล เพื่อความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อมทั้งหมด รวมถึงต้องทำตามขั้นตอน และข้อกำหนดของกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจว่าโรงงานของคุณจะไม่สร้างผลเสียต่อคน สัตว์ หรือพืช สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือต้องประเมินวิธีทำลาย จัดการกับสารเคมีและวัตถุอันตรายต่าง ๆ ภายใต้ความเหมาะสม ถูกต้อง ทั้งเรื่องลักษณะ ปริมาณ ผลข้างเคียง และข้อกำหนดทางสิ่งแวดล้อมด้วย
แม้สารเคมีรวมถึงวัตถุอันตรายหลายชนิดจะสำคัญต่อระบบการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมแทบทุกแห่ง แต่ก็ต้องรับผิดชอบสังคมด้วยการจัดการอย่างถูกต้อ งและเหมาะสมด้วย
เลือกคลังสินค้าให้เช่า (Factory For Rent) คลังสินค้าคุณภาพสูง เลือก โครงการรังสิต พรอสเพอร์ เอสเตท โครงการโกดังให้เช่า รังสิต ปทุมธานี เรายินดีบริการให้เช่าคลังสินค้า ให้เช่าโรงงานผลิตอาหาร เช่าสถานที่ผลิตอาหารคุณภาพสูง ที่เดินทางสะดวก ระบบสาธารณูปโภคครบครัน เพื่อรองรับนักธุรกิจขนาดย่อม (SME) ที่กำลังพัฒนา มีความยืดหยุ่นกับทุกประเภทธุรกิจ รองรับการขยายกิจการไปยังอาคารข้างเคียงได้ในอนาคต เน้นพื้นที่ทำงาน และยังอยู่ในพื้นที่ไกลจากแหล่งชุมชน เราให้บริการคลังสินค้าให้เช่าแบบ Built to suit warehouse โดยเน้นที่การพัฒนาคลังสินค้า หรือโกดังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของผู้เช่า มีการตกลงทำสัญญากับผู้เช่าก่อนที่จะเริ่มก่อสร้างโรงงาน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเช่าโกดัง หรือเช่าโรงงานในทำเลที่ดี สะดวกสบาย ใกล้กับถนนสายหลัก และสายการขนส่งสำคัญ ทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้าเป็นเรื่องง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ค้นหาคลังสินค้าให้เช่า โกดังให้เช่า โรงงานให้เช่า ปทุมธานี (Factory For Rent Thailand)
ที่โครงการรังสิต พรอสเพอร์ เอสเตท บริการให้เช่าโรงงาน เช่าโกดัง คลังสินค้าคุณภาพสูง
โดยเน้นที่การสร้างตามความต้องการของผู้เช่า (Built to Suit Factory)
โทร. 02-516-1134, 02-902-0407-09
อีเมล: marketing@rpe.co.th